Latest Movie :
Recent Movies

ชายจีนสุดโหด!ขังสาวเป็นทาสเซ็กซ์ในบ้าน



อย่างไรก็ตาม คงมีไม่กี่คนที่จะโหดร้ายทารุณมากพอๆ กับ เฉิน เซี่ยว หลง ชายชาวจีนคนหนึ่ง เมื่อเขาเกิดถูกอกถูกใจสาววัยรุ่นคนหนึ่งเป็นอย่างมาก เขาจึงลักพาตัวเธอมาข่มขืน อีกทั้งยังขังเธอเอาไว้ในคุกใต้ดินของบ้านเช่า เพื่อให้เธอเป็นทาสคอยบำเรออารมณ์หื่นกามของเขาด้วย! เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ที่ผ่านมานั้น เฉินบังเอิญไปเจอสาวสวยวัย 18 ปีคนหนึ่ง ที่ร้านคาราโอเกะ ซึ่งเขาก็ทำเป็นตีซี้กับเธอ พร้อมเสนอที่จะพาเธอไปส่งถึงบ้าน ด้วยรถสามล้อไฟฟ้าของเขา และฝ่ายสาวก็หลงคารมของเขา ยอมให้เขาพาเธอไปส่งด้วย ทว่าเป้าหมายปลายทางของเฉินไม่ใช่บ้านของฝ่ายสาว แต่เป็นบ้านที่อยู่ในพื้นที่รกร้างของเมืองเจี้ยซิง มณฑลเจ้อเจียง ต่างหาก หลังจากนั้นชายหื่นกามวัย 36 ปี ก็เอามีดกับตะบองไฟฟ้ามาขู่เธอ พร้อมกับถอดเสื้อผ้าของเธอทุกชิ้น และกระทำชำเราเธอทันที ซึ่งพอเสร็จสมอารมณ์หมายแล้วนั้น เขาก็จับสาวผู้โชคร้ายขังเอาไว้ในคุกเล็กที่เล็กกระจิริด พร้อมกับเอาโซ่มารัดขาและแขนของเธอเอาไว้อย่างแน่นหนา เพื่อที่เขาจะได้เล่นกิจกรรมทางเพศกับเธอได้ทุกเมื่อที่เขาต้องการ แถมเขายังขู่เธอว่าหากเอะอะขึ้นมาแล้วละก็ เขาจะเอาภาพโป๊ๆ ของเธอไปโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ตด้วย 


ทั้งนี้ เฉินแอบสร้างคุกนี้เอาไว้ลับๆ ตั้งแต่เช่าบ้านหลังนี้เมื่อปี 2012 แล้ว โดยเขาเอาปูนมาฉาบกำแพงแบบหยาบๆ และเอาถุงพลาสติก รวมถึงหนังสือพิมพ์มาแปะรอบๆ ทางเข้า ซึ่งทางเข้ามันก็เล็กมากๆ ราวกับเป็นหลุมทิ้งขยะก็มิปาน โดยหลังจากนั้นสาวผู้น่าสงสารก็ถูกข่มขืนอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งยังถูกสั่งให้ต้องโป๊ตลอดเวลาด้วย ซึ่งเธอได้รับอนุญาตให้ออกมาจากคุกแค่ 2 ครั้งต่อวันเท่านั้น เพื่อที่จะให้เธอมาอาบน้ำในห้องข้างบน ถึงกระนั้นสาววัยรุ่นคนดังกล่าวก็ไม่ได้เฝ้ารอปาฏิหาริย์ไปวันๆ เพราะหลังจากต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในฐานะทาสที่ทำได้เพียงคอยรองรับอารมณ์ทางเพศของเฉินเป็นเวลา 11 วันเต็มๆ แล้วนั้น สาวนิรนามรายดังกล่าวก็สามารถหลุดจากที่คุมขังได้สำเร็จ เพราะเธอแอบใช้ตะไบเล็บที่ซ่อนเอาไว้ค่อยๆ ตัดโซ่อยู่ทุกวัน จนประสบความสำเร็จในที่สุดนั่นเอง หลังจากตัดโซ่ได้แล้วนั้น เธอก็อาศัยจังหวะที่เฉินไม่อยู่ในบ้าน รีบวิ่งออกมาข้างนอก พร้อมกับตะโกนร้องขอความช่วยเหลือทันที โดยเพื่อนบ้านคนหนึ่งแถวนั้นเล่าให้ฟังว่า ”ตอนนั้นเธอร้องไห้และตะโกนซะดังลั่นว่า -ถ้าคุณไม่ช่วยฉันแล้วละก็ ชายคนนี้จะต้องฆ่าฉันในคืนนี้แน่ๆ” สุดท้ายแล้ว สาวนิรนามคนดังกล่าวก็ได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย และในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็บุกไปที่บ้านของเฉิน ซึ่งที่นั่นพวกเขาพบของที่คนหื่นกามมักจะพกเอาไว้มากมาย อาทิ ยากระตุ้นอารมณ์ทางเพศสำหรับฝ่ายชาย และนิตยสารโป๊อีกหลายเล่ม ท้ายที่สุดเฉินก็ถูกจับกุมในคืนที่สาวคนนั้นหนีออกมาได้ หลังจากที่เขากลับไปถึงบ้านแล้ว ซึ่งเขาถูกตั้งข้อหาข่มขืน รวมถึงทำการข่มขืนหลายครั้ง และชายสุดหื่นก็ยอมรับข้อหาทุกประการ โดยเขาบอกว่า เขาเกิดอารมณ์อยากทำเรื่องแบบนี้ เพราะไปอ่านพวกนิยายบนโลกออนไลน์ และดูสื่อลามกอยู่เป็นประจำ ”เขาบอกว่า เขาได้ไอเดียนี้มาจากการอ่านพวกสื่อลามกบนอินเทอร์เน็ต พอโซ่ของฝ่ายสาวขาดแล้วนั้น เธอก็ออกมาจากคุกใต้ดินทันที และตะโกนดังถึงขนาดที่เพื่อนบ้านของเฉินต้องรีบออกมาจากบ้านเพื่อดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น” โฆษกของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ระบุ



credit : Upyim
{[['']]}

แจม เผยจิตใจดีขึ้นเลิก อ้วน รับเสียดายเวลา


สาว'แจม' เผยจิตใจดีขึ้นเลิก อ้วน รังสิต รับเสียดายเวลา หมดลุ้นคืนดี ปัดมีมือที่สาม โต้เกาเหลา กระแต ร่วมงานได้

หลังจากออกมายอมรับว่า ห่างหนุ่ม "อ้วน รังสิต" แล้ว สาวแจม ก็ดูเหมือนจะเฮิร์ทหนัก แต่ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาให้สัมภาษณ์ในงาน Sing for help ที่อัมรินทร์ พลาซ่า ว่า "คนก็ให้กำลังใจเยอะค่ะ กับพี่อ้วน ก็ยังคุยกันบ้าง ทักทายกันตามประสาพี่น้อง จริงๆ มันก็นานแล้วเหมือนกัน เดือนนึงได้แล้ว ห่างกันก็เป็นพี่น้องกัน จริงๆ หนูกับเขา ก็ยังไม่เคยพูดว่าเราเป็นแฟนกัน คบกันดูใจกันจริง แต่ตอนนี้หยุดกันที่เป็นพี่น้องกัน จริงๆ แล้วมันก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียด พี่เขาก็โตแล้ว ถ้าพี่เขาบอกว่าเป็นเพราะไลฟ์สไตล์ก็จะคงจะเป็นแบบนั้น พี่อ้วนเขาก็เป็นคนดีคนนึง เขาก็เป็นพี่ชายที่น่ารัก" เมื่อถามถึงโอกาส ที่จะกลับมาคืนดี สาวแจม ก็บอกว่า "บางทีเรื่องบางเรื่องเราตัดสินใจแล้ว คิดดีแล้วก็ควรเป็นอย่างนี้ต่อไปดีกว่า ก่อนที่จะตัดสินใจเราก็คุยกันแล้ว ตกลงกันแล้วว่าเป็นพี่น้องกันดีกว่า แต่ไม่ได้มีมือที่สามค่ะ เราก็ได้ยินคนพูดมาเหมือนกันว่ากระแตเป็นมือที่ 3 แต่ว่าจริงๆ แล้ว แจมว่าอย่าไปมองเรื่องนั้นดีกว่าค่ะ ให้ดูที่ว่าเราสองคนเป็นพี่น้องกัน เพียงแต่เราไม่สานสัมพันธ์ ไปมากกว่านี้ เป็นพี่น้องกัน การที่พี่เขาจะคุยกับใครมันก็เป็นเรื่องปกติ เขาไม่ได้คุยแอบซุ่ม หนูมั่นใจ 100% ว่าไม่มีแบบนั้นแน่นอนค่ะ



credit : INNnews.co.th
{[['']]}

กลิ่นตุ! ญาติเจอข้อความเฟซบุ๊ก โยงข่มขืนดาวโรงเรียน


ความคืบหน้ากรณี นักเรียนหญิงโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.อุบลราชธานี ถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายและข่มขืนกระทำชำเรา เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา ก่อนจะเสียชีวิตลงในที่สุด เนื่องจากอาการก้านสมองตาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงติดตามเบาะแสของคนร้ายและยังจับกุมไม่ได้

ล่าสุด เมื่อวานนี้ (24 ธ.ค.) ญาติและชาวบ้านจากตำบลนาเยีย อ.นาเยีย จ.อุบลราชธานี เดินทางมายังสถานีตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ติดตามความคืบหน้าคดีนักเรียนหญิงชั้น ม.ปลาย ดาวประจำวงดนตรีโปงลางของโรงเรียนถูกทำร้ายข่มขืนและเสียชีวิต เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เร่งจับกุมคนร้ายให้ได้ เพราะเวลาล่วงเลยมากกว่าสัปดาดห์แล้ว เชื่อว่าคนร้ายเป็นคนในโรงเรียน

ทั้งนี้ ญาติและชาวบ้านยังได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ก่อนวันเกิดเหตุกับนักเรียนหญิง พบข้อความในเฟซบุ๊กบุคลากรคนหนึ่งในโรงเรียนดังกล่าว ทำนองตัดพ้อและมีนัยยะ ระบุว่า "เลี้ยงปลาตัวหนึ่งที่รักมากมาตั้งแต่เล็ก แต่กำลังจะจากไป" ซึ่งบังเอิญสอดคล้องกับนักเรียนหญิงที่เสียชีวิต กำลังจะจบการศึกษาจากโรงเรียนและไปศึกษาต่อปริญญาตรีที่ จ.บุรีรัมย์ ทางญาติๆ จึงไม่อยากให้พนักงานสอบสวนตัดประเด็นนี้ทิ้ง เพราะเป็นประเด็นที่น่าสงสัยมากในคดี

ขณะที่ทางด้าน พนักงานสอบสวนคดี ชี้แจงว่า ได้สอบสวนผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว 30 ปาก และอยู่ระหว่างรอผลตรวจดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัยเพิ่ม หลังจากชุดแรกผลไม่ตรงกัน แต่ถ้าผลตรวจผู้ต้องสงสัยอีกรายนี้ตรงกับหลักฐานจะดำเนินคดีทันที ขณะเดียวกันชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ได้ระดมกำลังอีก 3 ชุด ตามประกบตัวผู้ต้องสงสัย พร้อมเรียกพยานที่เป็นเพื่อนอยู่ในวงโปงลางและซ้อมดนตรีในวันนั้นมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกกว่า 20 ปาก และยังเก็บหลักฐานได้บางส่วนด้านหลังอาคารเกิดเหตุส่งไปตรวจหาลายนิ้วมือแฝง ซึ่งญาติและชาวบ้านระบุว่าอีก 7 วัน จะกลับมาฟังความคืบหน้าอีกครั้ง และจะเก็บศพไว้จนกว่าจะจับกุมผู้ต้องหาได้จึงจะฌาปนกิจ



credit : sanook.com
{[['']]}

CP ALL ชี้แจ้ง กรณีมีภาพทางโซเชียลเน็ตเวิร์คเขียนโจมตีนายกฯ


CP ALL ชี้แจ้ง กรณีมีภาพทางโซเชียลเน็ตเวิร์คเขียนโจมตีนายกฯ และระบุในข้อความว่าเป็นพนักงานของบมจ.ซีพี ออลล์บริษัทได้รับทราบเรื่องแล้วและจะรีบตรวจสอบหาข้อเท็จจริงและดำเนินการที่สมควรต่อไป

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ชี้แจงผ่านเพจ 7-Eleven Thailand บนเฟซบุ๊กกรณีที่มีพนักงานของ  บมจ.ซีพี ออลล์ กล่าวโจมตีนายกฯ ที่เป็นข่าวทางโซเชียลเน็ตเวิร์คในขณะนี้ว่า 
ขออนุญาติชี้แจ้ง กรณีภาพที่อาจเป็นพนักงาน บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ขณะนี้ 
"บริษัทได้รับทราบเรื่องที่ทุกท่านกรุณาส่งเข้ามา บริษัทจะรีบนำข้อมูลไปตรวจสอบเพื่อหาข้อเท็จจริงและดำเนินการที่สมควรต่อไป"

ก่อนหน้านี้ มีผู้แชร์ภาพจากเฟซบุ๊กน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขณะอยู่ในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven แห่งหนึ่ง พร้อมเขียนข้อความว่า 'ในฐานะที่ทำงาน CP ALL นะฮะ ขอประกาศตรงนี้ว่าร้าน 7-Eleven ไม่มีนโยบายปล่อย หมา เข้ามาในร้านนะฮะ' ซึ่งหลังจากที่มีผู้พบเห็นโพสต์ดังกล่าวได้มีการร้องเรียนถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมนี้ไปยัง บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) จนทางบริษัทต้องออกมาชี้แจง 



credit : VOICE TV
{[['']]}

สื่อนอกรุมวิจารณ์ ‘ประชาธิปัตย์‘ ทำร้ายประชาธิปไตยไทย


"วอลสตรีท เจอร์นัล"และ"นิวยอร์กไทมส์"สองสำนักสื่อชื่อดังของโลก เขียนบทบรรณาธิการวิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลไทย โดยเรียกร้องให้หยุดทำร้ายระบอบประชาธิปไตย และก่อความวุ่นวายภายในชาติ

เว็บไซต์หนังสือพิมพ์วอลสตรีท เจอร์นัล ของสหรัฐฯ เผยแพร่บทบรรณาธิการชิ้นใหม่ โดยใช้ชื่อว่า "Thailand's Disloyal Opposition" หรือ "ฝ่ายค้านที่ไม่ซื่อสัตย์ของไทย" พร้อมวิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์ ว่าพยายามไขว่คว้าอำนาจด้วยการทำให้ชาติต้องตกอยู่ในภาวะไร้ขื่อแป

บทความดังกล่าวระบุว่า แม้โอกาสเกิดสงครามกลางเมืองในไทย อาจยังฟังดูห่างไกลความเป็นจริง แต่การที่พรรคประชาธิปัตย์ประกาศบอยคอตการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ทำให้โอกาสยุติความขัดแย้งระหว่างกลุ่มรอยัลลิสต์ที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ กับฝ่ายผู้สนับสนุนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี แทบไม่มีโอกาสเป็นไปได้ในขณะนี้

วอลสตรีท เจอร์นัลชี้ว่า การที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาประกาศขับไล่นางสาวยิ่งลักษณ์ และขัดขวางการเลือกตั้งให้ถึงที่สุด ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ระบุว่า ในระหว่างที่พรรคประชาธิปัตย์อ้างว่าต้องการปฏิรูปประชาธิปไตย แต่กลับร้องขอนายกฯพระราชทาน ซึ่งเป็นการปกครองโดยชนชั้นนำแทน

นอกจากนี้ วอลสตรีท เจอร์นัล ยังตอบโต้ข้อกล่าวหาของนายสุเทพ ที่อ้างว่านางสาวยิ่งลักษณ์ และพี่ชาย ทำให้การคอรัปชั่นในประเทศไทยเลวร้ายลง โดยระบุว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวมีหลักฐานสนับสนุนเพียงเล็กน้อย ขณะที่นายสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ ต่างก็เคยถูกกล่าวหาเรื่องคอรัปชั่นมาด้วยเช่นกัน

วอลสตรีท เจอร์นัล ปิดท้ายบทความด้วยการระบุว่า ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์อ้างว่าเป็นตัวแทนประชาชน แต่บรรดาผู้นำพรรคกลับมีแนวโน้มต้องการหวนคืนสู่อำนาจโดยไม่สนใจว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนจากคนส่วนใหญ่ของประเทศหรือไม่ และการเป็นฝ่ายค้านด้วยวิธีการนี้ ทำให้ระบอบประชาธิปไตยไทย ยังคงถูกทำลายต่อไป

ด้านหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ ของสหรัฐฯ พาดหัวบทบรรณาธิการชิ้นใหม่ใช้ชื่อว่า "Democracy in Thailand" หรือ "ประชาธิปไตยในประเทศไทย" พร้อมบรรยายว่า กลุ่มผู้ประท้วงกำลังคุกคามเสถียรภาพทางการเมืองอันเปราะบางของไทยอีกครั้ง หลังจากดินแดนนี้ต้องเผชิญความวุ่นวายมาตลอดในช่วงกว่าสิบปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ บทความส่วนใหญ่ยังบรรยายเหตุการณ์ประท้วงทั่วไป รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ กับกลุ่มผู้ชุมนุม ก่อนปิดท้ายบทความด้วยการเรียกร้องให้นายสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ หันไปเข้าร่วมการเลือกตั้ง และยื่นข้อเสนอเพื่อการปฏิรูปประเทศให้ประชาชนตัดสินใจ

ขณะเดียวกัน นิวยอร์กไทมส์ยังเรียกร้องให้นางสาวยิ่งลักษณ์ หยุดยั้งความพยายามนำตัวพี่ชายกลับประเทศ และหันไปมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจ รวมถึงปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน และการศึกษา ซึ่งถูกฉุดรั้งการพัฒนามาหลายปี ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้น


credit : VOICE TV
{[['']]}

2 ครูสาวผวา! ตร.อารักขา′ยิ่งลักษณ์′ใช้ปืนยิงล้อรถ เข้าใจผิดคิดว่าแหกด่าน

(ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหาข่าว)

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 24 ธันวาคม นางฐิติรัตน์ พาคำ อายุ 36 ปี ครูโรงเรียนห้วยทรายเหนือ และ นางชลธาร เบ้าอาสา อายุ 27 ปี ครู กศน.หล่มสัก เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.วัชรินทร์ อินทรประไพ พนักงานสอบสวน สภ.เขาค้อ โดยน.ส.ฐิติรัตน์ให้การว่า ระหว่างขับรถปิกอัพ โตโยต้า วีโก้ เลขทะเบียน กจ-5818 เพชรบูรณ์ กลับบ้านพักที่ทองจรัสแสงรีสอร์ท หมู่ 8 ต.ทุ่งสมอ โดยมา นางชลธารนั่งมาด้วย มาถึงบริเวณทางแยกบ้านนายาว สังเกตเห็นมีรถยนต์ปิกอัพขับตามจี้มาติดๆ จึงพยายามหลีกทางให้แซงแต่รถคันดังกล่าวไม่ยอมแซง หลังจากนั้นยังได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงปืนดังขึ้นเป็นช่วงๆ แต่ไม่ยอมจอด จนก่อนถึงรีสอร์ทยังได้ยินเสียงปืนดังรัวหลายนัด

นางฐิติรัตน์กล่าวว่า หลังขับเลี้ยวเข้าไปจอดในรีสอร์ท ก็มีรถปิกอัพ 4 คันบุกเข้ามาและมีตำรวจราว 9 คนบุกเข้ามาตรวจรื้อค้นภายในรถ หลังไม่พบสิ่งผิดกฎหมายก็ข่มขู่โดยพยายามจะคบคุมตัวไปตรวจปัสสาวะ ทั้งที่ได้แสดงตัวว่าเป็นข้าราชการและสามีเป็นตำรวจเช่นกัน ต่อไปสามีได้รับทราบจึงรีบรุดมา และก่อนตำรวจชุดดังกล่าวจะเดินทางกลับแจ้งว่า ได้รับแจ้งว่ามีรถปิกอัพวีโก้แหกด่านตรวจระหว่างคณะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี พักค้างคืนที่รีสอร์ทฟ้าใสหมอกสวย และเห็นรถคันดังกล่าวคล้ายรถต้องสงสัยจึงได้ขับติดตามมา ส่วนที่ตัดสินใจมาแจ้งความร้องทุกข์นั้นเพราะนอนหวาดผวาทั้งคืน



credit : มติชน, sanook.com
{[['']]}

สาวทอมลุยเดี่ยว เป่านกหวีดใส่ยิ่งลักษณ์ ปัดจับมือ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 24 ธันวาคม ภายหลังรับประทานอาหารกลางวัน ระหว่างเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในภาคบ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ ปฏิบัติหน้าที่ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ปฏิบัติหน้าที่ รมช.ศึกษาฯ ได้แวะทักทายและเยี่ยมชมร้านขายสินค้าที่ระลึกบริเวณสะพานจุดชมวิวเขาค้อ

ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ สอบถามถึงรายได้จากนักท่องเที่ยว ปรากฏว่า ได้มีผู้หญิงวัยประมาณ 25-30 ปี ขี่มอเตอร์ไซค์ ทะเบียน ขจต 730 พิษณุโลก บุกเดี่ยว เข้ามาเป่านกหวีดใส่นายกรัฐมนตรีชนิดประชิดตัว ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินเข้าไปหาผู้หญิงคนดังกล่าว โดยไม่มีท่าทีเกรงกลัวแต่อย่างใด และเมื่อเผชิญหน้ากันผู้หญิงคนดังกล่าวก็กล่าวท้าทายเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า "จะจับมั้ยๆ" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวตอบทันทีว่า "ไม่ค่ะ ไม่มีการจับ เชิญตามสบาย ขอบคุณนะคะ ไม่เป็นไร อยากเป่าก็เป่าเลยค่ะ ขอจับมือหน่อยนะคะ" ทำให้ผู้หญิงคนดังกล่าวถึงกับอึ้งไป แต่ไม่ยอมให้จับมือ

จากนั้น ผู้หญิงคนดังกล่าวจอดรถลง พร้อมระบุว่าขอคุยหน่อยได้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่ายินดี โดยมือเป่านกหวีดพยายามสอบถามมาทำอะไร มาเที่ยวหรือ? แล้วจะกลับกรุงเทพฯวันไหน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มาทำงาน ตรวจติดตามงานตามนโยบาย ซึ่งมาได้ 2 วันแล้ว พรุ่งนี้ก็จะเดินทางกลับ ผู้หญิงคนดังกล่าวพยายามถามย้ำอีกว่า จะกลับกรุงเทพฯวันไหน น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงย้อนถามกลับว่าถามทำไมหรือ จากนั้น ได้ถามกลับว่า เป็นคนที่เพชรบูรณ์หรือคนกรุงเทพฯ ก็ได้รับคำตอบว่าเป็นคนกรุงเทพฯ แต่มาทำงานที่เขาค้อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นได้มีชาวบ้านที่ขายของในบริเวณดังกล่าวแสดงความไม่พอใจตะโกนถามผู้หญิงคนดังกล่าวว่ามาเป่าทำไม ซึ่งก่อนที่จะเกิดการปะทะกันได้มีผู้หญิงอีกคนหนึ่งคาดว่าเป็นเพื่อนได้รีบมาพาหญิงคนดังกล่าวออกไป แต่ไม่วายจะหันมาเป่านกหวีดใส่อีกครั้ง ซึ่งนายกรัฐมนตรีระบุว่า ไม่ตกใจอะไร ถือเป็นการแสดงตามสิทธิ จากนั้น ได้เดินทักทายชาวบ้านต่อ โดยชาวบ้านได้ออกมาให้กำลังใจและให้ต่อสู้ โดยระบุว่าการเป่านกหวีดดังกล่าวเป็นเพียงคนคนเดียว

จากนั้น เวลา 14.15 น. นายกฯเดินทางมาตรวจเยี่ยมฐานยิงสนับสนุนพิพิธภัณฑ์อาวุธเขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โดยได้ดูวิดีโอพรีเซ็นเตชั่นสรุปความเป็นมาของสถานที่ และได้เดินชมอาวุธยุทโธปกรณ์ เฮลิปคอร์ปเตอร์ ที่ปลดประจำการแล้วนำมาจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ โดยมีร้อยตรี จำนงค์ สุระจินดา นายทหารช่างชำนาญงาน ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ นำเดินชมพร้อมบรรยาย ทั้งนี้ นายกฯได้ชมทัศนียภาพรอบฐานด้วย โดยระหว่างที่นายกฯเดินชมฐานได้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ามาขอถ่ายรูปคู่ด้วยอย่างเป็นกันเอง

จากนั้น เวลา 14.50 น. นายกฯเดินทางไปต่อไปยัง "อนุสรณ์ผู้เสียสละเขาค้อ" ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากพิพิธภัณฑ์อาวุธฯ โดยนายกฯได้เดินชมพร้อมกับฟังบรรยาย โดยมีนายวิเชียร จันทรโณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ร่วมเดินชมด้วย ทั้งนี้ นายกฯได้กล่าวกับผู้ว่าฯ ช่วงหนึ่งว่า น่าจะมีการสนับสนุนและผลักดันให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของเพชรบูรณ์ด้วย


credit : มติชน
{[['']]}

ศาลอุทธรณ์ตัดสินนปช.เผาเซ็นเตอร์วัน เข้าข่ายก่อการร้าย


(24 ธ.ค.) ศาลอุทธรณ์ อ่านคำพิพากษาคดีวางเพลิงเซ็นเตอร์วัน ให้บริษัทประกันภัยชดใช้ค่าเสียหายให้ห้างเซ็นเตอร์วันกว่า 122,790,000 บาท ตามคำพิพากษาชั้นต้น จากเหตุการณ์ นปช.บุกขโมยทรัพย์สินและวางเพลิงเผาทรัพย์ แต่แก้อุทธรณ์จากพฤติการณ์ของนปช.จากจลาจล เป็นการก่อการร้าย

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2556 ศาลอุทธรณ์ ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีความแพ่ง ที่บริษัท พีเพิล พลาซ่า หรือ ห้างสรรพสินค้าเซ็นเตอร์วัน เป็นโจทก์ฟ้อง บริษัทแอกซ่า ประกันภัย จำกัด ให้จ่ายค่าเสียหาย 122,790,000 บาท กรณีถูกวางเพลิงเผาทรัพย์และขโมยทรัพย์สินระหว่างการสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง (นปช.) เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2553 โดยสรุปคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ได้พิจารณาพยานและหลักฐาน จากข้อมูลดังนี้

หลังเกิดเพลิงไหม้ได้มีรถดับเพลิงพยายามเข้าไปดับไฟแต่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมขัดขวาง พบลูกธนูที่พันด้วยผ้าตกอยู่บริเวณชั้นล่างของอาคารศูนย์การค้า และพบร่องรอยกระสุนปืนเป็นรูอยู่หลายรูบริเวณเสาด้านหน้าอาคาร

ดังนั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เชื่อว่าการวางเพลิงเกิดจากฝีมือของกลุ่มวัยรุ่นคึกคะนอง รถจักรยานยนต์รับจ้าง และคนขับรถซาเล้งซื้อของเก่า ที่มีเจตนาลักทรัพย์ และเมื่อพิจารณาโดยสรุปจากพยานหลักฐานเกี่ยวกับการวางเพลิงแล้ว พบว่า การวางเพลิงเกิดจากการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุม นปช. บางส่วนที่ต้องการใช้ความรุนแรงและ/หรือต้องการข่มขู่ เพื่อผลทางการเมือง ด้วยการทำให้รัฐบาลและประชาชนหวาดกลัว ซึ่งการกระทำของกลุ่ม นปช. ที่วางเพลิงนั้น เข้านิยาม "การกระทำการก่อการร้าย"



credit : sanook.com

{[['']]}

บ้านเลขที่111-109 ยึดหัวแถวบัญชีรายชื่อพท.


(24 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับลำดับรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ที่พรรคเพื่อไทย ที่ยื่นต่อ กกต. ทั้ง 125 คน มีสมาชิกบ้านเลขที่ 111 และ 109 ที่พ้นโทษจากการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง อยู่ในลำดับจำนวนมาก

1.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 
2.นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ 
3.นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ 
4.นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล 
5.นายชัยเกษม นิติสิริ 
6.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
7.นายเสนาะ เทียนทอง 
8.พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก 
9.นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา 
10.นายปลอดประสพ สุรัสวดี
11.นายโภคิน พลกุล 
12.นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ 
14.นายนพดล ปัทมะ 
16.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน 
19.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ 
20.นายจตุพร พรหมพันธุ์ 
21.นายภูมิธรรม เวชยชัย 
34.วีระกานต์ มุสิกพงศ์ 
37.นายพิชิต ชื่นบาน 
38.นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ 
39.นายจาตุรนต์ ฉายแสง 
41.นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ

นอกจากนี้ ยังมีรายชื่อของ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ นายวัฒนา เมืองสุข นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ผู้เสนอร่าง
พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย น.พ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายอดิศร เพียงเกษ อยู่ในผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับ ประมาณ 40 - 60 ด้วย


credit : INN
{[['']]}

กรุงเทพโพลล์เผยผลสำรวจที่สุดแห่งปี 2556


ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง "ที่สุดแห่งปี 2556" โดยประชาชนทั่วประเทศเห็นว่า

ข่าวหรือเหตุการณ์ในประเทศไทยที่ทำให้ปลาบปลื้มใจมากที่สุดในรอบปีนี้ คือ ข่าวเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกจากโรงพยาบาลศิริราชไปประทับที่พระราชวังไกลกังวล และเสด็จออกมหาสมาคมวันที่ 5 ธ.ค.56 ที่พระราชวังไกลกังวล

ส่วนข่าวหรือเหตุการณ์ที่ทำให้เศร้าสลดใจมากที่สุดในรอบปีนี้ คือ ข่าวการปะทะกันระหว่างกลุ่ม นปช. และนักศึกษารามคำแหงจนมีผู้เสียชีวิตและการใช้แก๊สน้ำตาของรัฐบาล

สำหรับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลในสังคมไทยที่น่ายกย่องมากที่สุดในรอบปีนี้ คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี

ขณะเดียวกันข่าวที่สนใจ ติดตาม และเกาะติดมากที่สุดในรอบปีนี้ คือ ข่าวการชุมนุมที่นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.

ส่วนที่สุดแห่งนวัตกรรมความคิดสร้างสรรค์ที่นำมาใช้ในการชุมนุมทางการเมือง ปี 2556 ที่โดนใจมากที่สุด คือ นกหวีด

นอกจากนี้ การสร้างสรรค์คำพูดใหม่ๆ ในปี 2556 ที่ฮอตฮิตและโดนใจมากที่สุด คือ คำว่า "จุงเบย" ขณะที่ละครในปี 2556 ที่สร้างสรรค์และสร้างคุณค่าให้กับสังคมมากที่สุด คือ ทองเนื้อเก้า และบทบาทในตัวละครไทยที่ชื่นชอบมากที่สุด คือ "ลำยอง" จากละครทองเนื้อเก้า



credit : spring news
{[['']]}

แม่ญาญ่า ไม่ปลื้ม ณเดชน์ เปลี่ยนคู่จิ้นเป็น แพทริเซีย


ทำเอานางเอกสาว "ญาญ่า อุรัสยา" ต้องรีบออกมาเคลียร์ข่าวแรงเวอร์ กลางงานเปิดตัว Groove @CentralWorld กันเลยทีเดียว หลังคุณแม่ "ปลา อุไร เสปอร์บันด์" โดนเม้าท์ว่า ออกอาการไม่ปลื้ม ที่พระเอกคู่ขวัญ "ณเดชน์ คูกิมิยะ" เปลี่ยนคู่จิ้นเป็นนางเอกน้องใหม่ "แพทริเซีย กู๊ด" ซึ่งงานนี้สาวญาญ่าก็ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวแบบขำๆ ว่า...

"ไม่จริงเลยค่ะ เรื่องนี้เป็นข่าวที่ออกจะขำๆ สักหน่อยนะคะ เพราะว่าคุณแม่หนูท่านไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรหรือว่าตัดสินใจแทนใครอยู่แล้ว"

ที่ผ่านมาคุณแม่เคยถามเราบ้างไหมเกี่ยวกับเรื่องคู่จิ้น ?
"ไม่ค่ะ เพราะคุณแม่หนูก็ชิวๆ นะ หนูว่าแม่หนูชิวที่สุดในโลกแล้วล่ะค่ะ (หัวเราะ)"

คิดว่าเป็นเพราะเรากับพี่ณเดชน์เป็นคู่จิ้นกันตั้งแต่แรกแล้วหรือเปล่า ท่านเลยไม่อยากให้เปลี่ยน ?
"อย่างที่บอกค่ะมันไม่ได้ขึ้นกับคุณแม่หนูอยู่แล้ว (ยิ้ม)"

กดดันไหมที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับคู่จิ้นออกมาอยู่ตลอด ?
"ญาญ่าคิดว่าอยากให้ทุกคนให้โอกาสดีกว่าค่ะ เพราะว่ายังไงเราก็ต้องเจอกับนักแสดงคนใหม่ๆ อยู่แล้ว"

ล่าสุดวันเกิดณเดชน์ที่ผ่านมาเราได้ให้ของขวัญอะไรพี่เขาบ้างไหม ?
"ก็อวยพรค่ะ เพราะพี่เขามีทุกอย่างแล้วไม่รู้ว่าจะให้อะไรดี แล้วก็มีแต่งรูปให้ในอินสตาแกรมด้วย แต่มันเป็นรูปตลกๆ ก็เลยถามพี่เขาก่อนว่าลงได้ไหม ซึ่งพี่เขาก็โอเค น่ารักดีค่ะ"

อย่างก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือออกมาว่า ไฮโซภูมิ เดินหน้าจีบเราจนพี่ ณเดชน์ โมโห ส่วนตัวเรามีอะไรจะชี้แจงบ้างไหม ?
"ไม่มีเลยค่ะ เรื่องนี้แบบว่ามาจากไหนไม่รู้ไม่มีความเป็นจริงเลย ยิ่งเรื่องโยนดอกไม้ยิ่งไม่มีแน่นอน เพราะตอนที่ทราบข่าวครั้งแรกญาญ่ายังคิดเลยว่าเป็นฉากในละคร เนื่องจากในชีวิตจริงไม่มีแน่นอนค่ะ"

ตกใจไหมตอนที่ได้ยินข่าวนี้ครั้งแรก ?
"เหวอค่ะ แต่ว่ามันไม่มีความเป็นจริง ก็เลยไม่ได้คิดะไร"

พอมีข่าวแบบนี้ออกมาเหมือนชื่อเสียงพี่ณเดชน์เองก็ค่อนข้างเสียหายน่าดู ?
"คือมันไม่ได้เป็นนิสัยของพี่เขาอยู่แล้วค่ะที่จะแบบว่าอารมณ์ร้อน"

ที่ผ่านมาเคยมีไฮโซคนที่เป็นข่าวมาจีบบ้างไหม ?
"เอาจริงๆ เลยนะ ที่ผ่านมาหนูยังไม่เคยได้ยินชื่อพี่เขาเลยค่ะ ไม่รู้จัก ไม่สนิทอะไรเลย"




credit : sanook.com
{[['']]}

“บีทีเอส“ ขยายเวลาเดินรถคืนส่งท้ายปีเก่าจนถึงตี 2


"บีทีเอส" ขยายเวลาการให้บริการเดินรถในวันส่งท้ายปีเก่า คืนวันอังคารที่ 31 ธ.ค. 2556 จากเวลา 24.00 น. ไปจนถึงเวลา 02.00 น. ของวันพุธที่ 1 ม.ค. 2557

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการ และผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด มหาชน ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะขยายเวลาการให้บริการเดินรถในวันส่งท้ายปีเก่า คืนวันอังคารที่ 31 ธ.ค. 2556 จากเวลา 24.00 น. ไปจนถึงเวลา 02.00 นาฬิกาของวันพุธที่ 1 มกราคม 2557 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการที่ต้องการเดินทางไปฉลอง เทศกาลในสถานที่ต่างๆ ที่อยู่ในเส้นทางรถไฟฟ้า และบริเวณใกล้เคียง

นอกจากนี้ บริษัทฯ จะจัดเตรียมบัตรโดยสารเที่ยวเดียวไว้ล่วงหน้า โดยที่ผู้โดยสารไม่ต้องหยอดเหรียญซื้อบัตรดังกล่าวที่ตู้จำหน่ายตั๋ว อัตโนมัติ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในคืนวันส่งท้ายปีเก่า โดยสามารถซื้อได้ที่หน้าห้องจำหน่ายตั๋วสถานีหมอชิต พญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สยาม ชิดลม อโศก พระโขนง อุดมสุข แบริ่ง ราชดำริ สะพานตากสิน วงเวียนใหญ่ และบางหว้า รวมถึง ได้เตรียมบัตรโดยสาร ประเภท วัน เดย์พลาส(One - Day Pass )ในราคาใบละ 130 บาท ไม่จำกัดระยะทาง และจำนวนเที่ยวการเดินทาง เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

โดยสามารถใช้เดินทางได้ตั้งแต่เวลา 06.00 นาฬิกา ของวันอังคารที่ 31 ธันวาคม 2556 ถึง 02.00 นาฬิกา ของวันพุธที่ 1 มกราคม 2557

credit : spring news
{[['']]}

ไฟไหม้!! กุฏิวัดกระโจมทอง เพลิงเผาวอดแล้ว 4 หลัง



(20 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา เกิดเหตุไฟไหม้กุฏิของวัดกระโจมทอง พื้นที่เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ โดยเพลิงลุกไหม้กุฏิไปแล้ว 3 หลัง และกำลังลุกลามเข้าศาลาใหญ่ของวัด รวมเป็น 4 หลัง เบื้องต้นประสานเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเพลิงแล้ว และยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ต่อมา เมื่อเวลา 14.37 น. คืบหน้าเหตุไฟไหม้วัดกระโจมทอง ล่าสุด! เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างเข้าตรวจสอบความเสียหาย

ขอบคุณภาพจากกลุ่ม FIRE&RESCUE THAILAND





credit : sanook.com
{[['']]}

สอบนักการเมืองหื่น บังคับเลขาฯมีเพศสัมพันธ์ 4 ครั้งต่อเดือน


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ว่า ทางการอิตาลีได้สอบสวนนายลุยจิ เดอ ฟานิส นักการเมืองสภาท้องถิ่นประจำเมืองอาร์รุซโซ และเมืองซินกาเรียลโล ของอิตาลี ในข้อหาขู่กรรโชกทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ ฉ้อโกง และทำข้อตกลงผิดกฎหมาย บังคับให้เลขานุการส่วนตัวต้องมีเพศสัมพันธ์กับเขา แลกกับการได้เงินเดือนตอบแทนสูง

รายงานระบุว่า นายลุยจิ ได้ถูกสอบสวนในคดีฉาวล่าสุด ถูกแฉว่า บังคับให้นางลูเซีย ซินกาเรียโล เลขานุการวัย 32 ปี และแม่ลูกหนึ่ง ต้องมีเพศสัมพันธ์กับเขา 4 ครั้งต่อเดือน แลกกับการได้เงินเดือนปีละ 30,000 ปอนด์ (หรือราว 1.5 ล้านบาท) หลังเจ้าหน้าที่ได้พบหนังสือสัญญาบังคับให้นางลูเซียมีเพศสัมพันธ์กับนายลุยจิ ที่บ้านของนางลูเซีย ระหว่างการตรวจค้นบ้านของเธอ

โดยหนังสือดังกล่าวอยู่ในสภาพถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ แต่สามารถนำมาปะติดปะต่อกันได้ และสามารถพบเนื้อความว่า นางลูเซียจะต้อง "อยู่ด้วยกัน" กับนายลุยจิ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ขณะที่ฝ่ายหญิงถูกกักบริเวณเมื่อเดือนที่แล้ว ในข้อหาสมคบคิดร่วมรับสินบนเก็บส่วยจากกิจการเล็กๆ หลายแห่ง

ด้านนางลูเซีย ได้สารภาพเธอมีความสัมพันธ์ทางเพศกับนายลุยจิจริง เพราะเธอถูกบังคับให้ทำสัญญาทาสทางเพศ ซึ่งเธอไม่อาจปฏิเสธได้เพราะกลัว และเธอคิดว่าตัวเองไม่ได้ทำสิ่งใดผิด แต่ตอนนี้ชีวิตเธอต้องตกอยู่ในฝันร้าย เพราะไม่สามารถอยู่ในเมืองนี้ได้อีกต่อไป และยังได้รับโทรศัพท์ข่มขู่คุกคามด้วย อย่างไรก็ตาม ด้านทนายความของนายลุยจิปฏิเสธว่า นายลุยจิไม่เคยบังคับให้นางลูเซียมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขา แต่เป็นเรื่องสมยอมทั้งสองฝ่าย



credit : sanook.com
{[['']]}

เปิดภาพวินาทีปาบึ้มบ้าน ตั๊น จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี


เปิดภาพวงจรปิดจับวินาทีคนร้ายปาบี้มเข้าใส่บ้าน ตั๊น จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี 

(20 ธ.ค.) ตั๊น จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี หลังจากที่ถูกปาบึ้มประทัดยักษ์ใส่บริเวณบ้านพักย่านรามคำแหง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกับติดตามภาพคนร้ายจากล้องวงจรปิด 

ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพวินาทีคนร้ายปาบึ้มใส่บ้านพักของ ตั๊น จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปปัตย์ และหนึ่งในแกนนำ กปปส. โดยในภาพปรากฏเป็นคนร้ายมากันทั้งหมด 4 คน ขับขี่มอเตอร์ไซต์เป็นพาหนะ จากนั้น 2 คนที่ซ้อนท้ายได้ทำการจุดประทัดยักษ์และโยนใส่เข้ามาในบ้านหลังดังกล่าว  

ซึ่งหลังจากนั้นตำรวจได้ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบรถตู้ยี่ห้อโฟล์ค สีขาว หมายเลขทะเบียน 6787 กทม. ได้รับความเสียหายถูกไฟไหม้ด้านหน้ารถเล็กน้อย และที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างได


credit : sanook.com
{[['']]}

ไหมไทย เสียใจเหตุน้องการ์ตูน รับไม่สอบประวัติไอ้หนุ่ย


ไหมไทย หัวใจศิลป์ เสียใจ ไม่สอบประวัติไอ้หนุ่ย มือฆ่าน้องการ์ตูน เตรียมมอบเงินร่วมทำบุญ 1 แสน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (19 ธ.ค.) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 เสนอข่าวไหมไทย หัวใจศิลป์ หรือนายมนต์ชัย รักษาชาติ หัวหน้าคณะวงดนตรีคณะพระเอกใหญ่ไหมไทย หัวใจศิลป์ แถลงข่าวที่หน้าโรงพักเซกา อ.เซกา จ.บึงกาฬ ถึงกรณีนายหนุ่ย หรือ ติ๊งต่าง ผู้ต้องหาคดีฆ่าข่มขืนน้องการ์ตูน

นายมนต์ชัย กล่าวว่า นายติ๊งต่าง หรือ หนุ่ย ใช้ชื่อในวงดนตรีคือเดช เข้ามาทำงานเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2556 ที่ อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น โดยมีคนรู้จักนำมาฝากทำงานกับผู้จัดการวง โดยทางเราได้สอบถามหลักฐานเอกสารในการสมัครงาน แต่นายหนุ่ยเอกสารยังไม่พร้อม ประกอบกับทางวงขาดคนงานจึงรับไว้ก่อน โดยตามกฎของวงคือ ต้องไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่ทางวงไม่ได้สอบประวัติอาชญากรรม

ในวันเกิดเหตุ วันที่ 6 ธ.ค. มีคิวแสดงที่สนามข้าง BTS แบริ่ง ตามสัญญาว่าจ้างของผู้จัดงาน เมื่อพนักงานฝ่ายต่่างๆ ทำหน้าที่เสร็จ ก็จะปล่อยให้พักตามอัธยาศัย ไม่รู้เหมือนกันว่านายหนุ่ยไปพักที่ไหน หลักจากแสดงเสร็จก็เก็บข้าวของเพื่อย้ายที่ทำการแสดง ซึ่งนายหนุ่ยก็มาทำงานตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ได้ดูข่าวจากทางรายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ เห็นข่าวน้องการ์ตูนแต่ยังไม่แน่ใจ แต่สังเกตเห็นว่าเสื้อที่คนร้ายใส่คล้ายเสื้อของเรรา ซึ่งเสื้อชุดนี้เป็นเสื่อที่จำหน่ายหน้างานทุกงานที่ไปทำการแสดง และภาพจากกล้องวงจรปิดก็ยังเห็นไม่ชัด พอช่วงบ่ายๆ ก็ได้รับการติดต่อจากออแกไนซ์ผู้สนับสนุนว่าเป็นคนของเรา จึงปรึกษากันว่าทำอย่างไรดี ก็เลยได้ให้ทางออแกไนซ์ผู้จัดงานโทรแจ้งตำรวจ เพื่อให้เข้ามาดำเนินการต่อไป

"หลังเกิดเหตุและรู้ว่าลูกทีมเป็นคนลงมือในคดีนี้ รู้สึกเสียใจ สลดใจ เห็นใจพ่อแม่น้องการ์ตูนเป็นอย่างมาก ไม่มีอะไรที่จะมาทดแทนและชดเชยได้ จึงขอร่วมทำบุญกับพ่อแม่น้องการ์ตูนเป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท โดยจะติดต่อกับญาติน้องการ์ตูนในภายหลัง เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก และขอให้เป็นบทเรียนและฝากไปถึงวงดนตรีต่างๆ ในการรับคนเข้าทำงานด้วย" นายมนต์ชัย กล่าว

ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจากรายการเรื่องเล่าเช้านี้ 
{[['']]}

คุก 2 ปี! ‘เชาวรินธร์‘ โกงสร้างจตุคาม ไม่รอลงอาญา


ศาลสั่งจำคุก 2 ปี ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ลัทธศักดิ์ศิริ ฉ้อโกงประชาชน สร้างจตุคามฯ ไม่รอลงอาญา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (20 ธ.ค.) ที่ศาลอาญา รัชดา อ่านคำพิพากษาคดีดีที่อัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้อง ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ลัทธศักดิ์ศิริ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และอดีตที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม - 30 มิถุนายน 2550 จำเลยนำข้อความลงประกาศในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ เชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปสั่งจองและซื้อวัตถุมงคล จตุคามรามเทพ รุ่น "ทรัพย์สินเนืองนอง เงินทองไหลมา" โดยจำเลยเป็นประธานกรรมการในการจัดสร้าง พร้อมกับปลุกเสกที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) และศาลหลักเมือง แต่ไม่มีการนำวัตถุมงคลดังกล่าวไปปลุกเสกตามสถานที่จำเลยอ้าง

ทั้งนี้ หลังสืบพยานไปบางส่วนจำเลยขอถอนคำแถลงให้การปฏิเสธ และให้การใหม่ โดยรับสารภาพ จึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา 343 วรรคแรก ความผิดฐานฉ้อโกง ลงโทษจำคุก 3 ปี แต่จำเลยสารภาพเป็นประโยชน์ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงเหลือโทษจำคุก 2 ปี พิเคราะห์พฤติการณ์ในคดีแล้วไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ



credit : sanook.com
{[['']]}

แรง!! “เป้ย ปานวาด” มั่นใจขอร้ายกว่าเดิม?


ตั้งแต่ผันตัวไปเป็นคุณแม่ ก็ไม่ได้เห็นสาวเซ็กซี่ "เป้ย ปานวาด" เล่นละครอีกเลย ล่าสุดในงานประกาศรางวัล "เกิดอวอร์ด ครั้งที่2" สาวเป้ยได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าตอนนี้พร้อมรับละครแล้ว ถึงจะไม่เซ็กซี่เท่าเดิม แต่ความร้ายรับรองมากกว่าเดิมแน่นอน

ช่วงนี้พักงานเพื่อไปเลี้ยงลูกจริงหรือเปล่า?
"ก็ไม่ถึงกับแขวนเต้านะค่ะ ตอนนี้เป้ยเปิดบริษัทร่วมกับคุณแบงค์ คุณนิหน่า ร่วมกับสามีเป้ยด้วย กำลังทำรายการค่ะ ก็ปีนี้น่าจะมีรายการเกี่ยวกับแม่และลูกค่ะ เป็นประสบการณ์ตรงของเป้ยเลย ก็เป็นพิธีกร และเป็นทุกๆอย่าง เพราะว่าบริษัทเราเป็นบริษัทเล็กๆทำกันเอง 2 ครอบครัว รูปแบบรายการจะเป็นประสบการณ์ตรงที่มาจากเรา ทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกปัญหาที่เราเจอเกี่ยวกับลูกเราจะเอามาแชร์แล้วเอามาแบ่งปันกัน"

รายการนี้น้องโปรดทำด้วยหรือเปล่า?
"แน่นอนค่ะ รายการนี้เพื่อน้องโปรด"

แล้วเมื่อไหร่จะมีละคร?
"ปีหน้าค่ะ อาจจะรับละครแล้ว เนื่องด้วยเวลาอย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ไป แต่ปีหน้าเวลาน่าจะโอเคแล้วล่ะ ถ้ากลับมาบทน่าจะโอเค อยากเล่นบทร้ายนะค่ะ เพราะเป้ยว่าบทร้ายมันมีอะไรน่าสนใจ น่าเล่น เรื่องเซ็กซี่อาจจะไม่เหมือนเดิม แต่เรื่องความร้ายอาจจะมากกว่าเดิมนะ (หัวเราะ) ล้อเล่น"

พี่ป๊อปขอไว้หรือเปล่าว่าห้ามเซ็กซี่?
"ไม่ได้ขอนะ แต่เราคิดของเราเอง ว่ามันไม่เหมาะสมเท่าไหร่ อาจจะไม่ได้เซ็กซี่เหมือนเดิม แต่ก็มีบ้างนิดๆหน่อยๆค่ะ ตอนนี้ที่มีคุยมีอยู่ 3 ช่องแต่ว่ายังไม่ได้คอนเฟิร์มค่ะ"



credit : sanook.com
{[['']]}

กปท.เคลื่อนถึงหัวลำโพงชวนคนกรุงปฏิรูปปท.


กลุ่ม กปท. เคลื่อนขบวนถึงหัวลำโพงแล้ว เชิญชวนคนกรุงร่วมเดินหน้าปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้ง ขณะที่ประชาชนโบกมือสนับสนุนตลอดเส้นทาง 

บรรยากาศการเดินขบวนรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 
ของกลุ่ม กปปส. ที่นำขบวนโดยกลุ่ม กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) และกองทัพธรรม ขณะนี้
ค่อนข้างคึกคัก โดยตลอดเส้นทางได้มีการปราศรัยโจมตีการบริหารงานของรัฐบาล ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม 
และการทุจริตคอร์รัปชั่น รวมไปถึงกรณีการไม่รับอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งเชิญชวนให้ประชาชน
ออกมาร่วมกันชุมนุม เพื่อให้เกิดการปฏิรูปประเทศก่อนจะมีการเลือกตั้ง และได้มีการเผยแพร่เอกสารเพื่อสร้าง
ความเข้าใจกับประชาชน และชี้ให้เห็นถึงข้อดีของการปฏิรูปประเทศ ข้อเสียของเลือกตั้งก่อนการปฏิรูปประเทศ ที่จะทำให้ระบอบทักษิณยังคงอยู่ทำร้ายประเทศชาติ
ขณะที่ ตลอดเส้นทางที่มีการเคลื่อนขบวนผ่าน ได้มีพ่อค้า แม่ค้า ประชาชน และนักเรียน นักศึกษา ให้ความสนใจออกมายืนโบกไม้โบกมือ เป่านกหวีดสนับสนุนให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก บางส่วนได้นำอาหารและน้ำดื่มมาคอยให้บริการผู้ร่วมชุมนุม โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายด้วย



credit : innnews.co.th
{[['']]}

คนหน้าคล้าย “ตั้ง อาชีวะ“ซวย บ่นใช้ชีวิตลำบาก วอนสังคมแยกแยะ


จากกรณีที่นายเอกภพ เหลืองรา แกนนำอาชีวะเสื้อแดง ผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบัน ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่บริเวณสนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน ในระหว่างการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในวันที่ 28 พ.ย. 56 ที่ผ่านมา
ทำให้ในเพจผู้ใช้นามว่า "Raekroon Pongpiboon" ได้แชร์ข่าวผ่านเพจ "I Support PM Abhisit" เพื่อเตือนว่าพี่ชายตัวเองมีหน้าตาคล้าย "ตั้ง อาชีวะ" ทำให้สังคมเข้าใจผิด จนต้องอยู่หวาดระแวง โดยแสดงความเห็นว่า
"ช่วยหน่อยนะครับ คนในรูปที่ใส่เสื้อทีมลิเวอร์พูลคือพี่ชายผม และเขาเป็นเด็กรามอีกคนหนึ่งที่วิ่งหนีลูกกระสุนปืนที่ถูกพวกเลวล้อมไว้ครับ ?? ตอนนี้อยู่ลำบากครับเพราะหน้าไปเหมือนตัวเ.ยแดง เดิมหน้ารามอย่างหวาดระแวง ไงก็ช่วยกันกระจายข่าวด้วย พี่ผมกลัวสุดๆไม่ใช่มันนะครับ แค่คนหน้าคล้ายกัน พี่ผมเป็นเด็กรามที่รักในหลวง และเป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราชครับ"


credit : sanook.com
{[['']]}

Air Gear ตอนที่ 351-357 [End]































































































































{[['']]}
 
Support : Creating Website | Johny Template | Mas Template
Copyright © 2011. Dojin TH 18+ - All Rights Reserved
Template Created by Creating Website Published by Mas Template
Proudly powered by Blogger